5 ขั้นตอนวางแผนลดคาร์บอนฟุตพรินท์ ให้เวิร์กจริง!

คาร์บอนฟุตพริ้นท์, Net Zero, คาร์บอน ฟุตพริ้นท์ คือ, carbon footprint, ลดคาร์บอน

การเริ่มต้นลดคาร์บอนโดยไร้ทิศทางอาจทำให้ธุรกิจเสียทั้งเงินและเวลา ในขณะที่หลายองค์กรกำลังเร่งผลักดันนโยบายความยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อสหภาพยุโรปประกาศใช้ CBAM เก็บภาษีคาร์บอนสินค้านำเข้าในปี 2026 การวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพรินท์อย่างเป็นระบบจึงไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นความจำเป็น ที่จะช่วยให้องค์กรระบุจุดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญ กำหนดเป้าหมายที่เป็นไปได้ และเลือกใช้โซลูชันที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการลงทุนที่สูญเปล่าหรือใช้งบประมาณผิดจุด

 

ขั้นตอนที่ 1: ประเมินคาร์บอนฟุตพรินท์ของคุณ

ก่อนที่จะเริ่มลดคาร์บอน คุณต้องรู้ก่อนว่าองค์กรของคุณปล่อยคาร์บอนฟุตพรินท์ในปริมาณเท่าไรและมาจากแหล่งใดบ้าง การประเมินคาร์บอนฟุตพรินท์ที่ครบถ้วนจะครอบคลุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้ง 3 ขอบเขต (Scope)

  • Scope 1 – การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงในกระบวนการผลิต หรือการใช้รถยนต์ในกิจการ
  • Scope 2 – การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน เช่น การซื้อไฟฟ้า ไอน้ำ หรือความร้อนจากภายนอก
  • Scope 3 – การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ ตลอดซัพพลายเชน เช่น วัตถุดิบ การขนส่ง การใช้ผลิตภัณฑ์ และการกำจัดของเสีย

เมื่อเก็บข้อมูลแล้ว คุณควรจัดทำบัญชีคาร์บอนฟุตพรินท์ (Carbon Footprint Inventory) ที่แสดงให้เห็นแหล่งปล่อยคาร์บอนหลักและปริมาณการปล่อยในแต่ละกิจกรรม ซึ่งจะเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญ (baseline) ที่ใช้ในการวางแผนลดคาร์บอนและวัดความสำเร็จต่อไป

ข้อแนะนำ: ใช้มาตรฐานในระดับประเทศในการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ได้แก่ แนวทางการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) หรือใช้มาตรสากลที่ได้รับการยอมรับในหลากหลายประเทศ เช่น เช่น GHG Protocol หรือ ISO 14064-1 เพื่อให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและเปรียบเทียบได้

 

ขั้นตอนที่ 2: กำหนดเป้าหมายการลดคาร์บอน

การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้เป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการลดคาร์บอนฟุตพรินท์ เป้าหมายที่ดีควรมีลักษณะ SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound) และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร

ปัจจุบัน หลายองค์กรมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมทั้งหมดให้เหลือศูนย์ โดยแบ่งเป้าหมายออกเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เช่น

  • ระยะสั้น (1-2 ปี) – ลดการใช้พลังงานลง 10% เทียบกับปีฐาน
  • ระยะกลาง (3-5 ปี) – ใช้พลังงานหมุนเวียน 50% ของการใช้พลังงานทั้งหมด
  • ระยะยาว (10-30 ปี) – บรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050

ข้อแนะนำ: พิจารณาตั้งเป้าหมายตามแนวทาง Science-Based Targets initiative (SBTi) ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศและความตกลงปารีส

 

ขั้นตอนที่ 3: ค้นหาโอกาสในการลดคาร์บอน

หลังจากที่ทราบแหล่งปล่อยคาร์บอนหลักแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการค้นหาโอกาสในการลดคาร์บอน โดยเริ่มจากแหล่งที่มีการปล่อยมากที่สุดก่อน โอกาสในการลดคาร์บอนฟุตพรินท์มีหลายวิธี เช่น

การลดการใช้พลังงาน

  • ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคารและกระบวนการผลิต
  • ติดตั้งระบบควบคุมอัตโนมัติเพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น
  • อัปเกรดอุปกรณ์เป็นรุ่นประหยัดพลังงาน

การเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด

  • ติดตั้งระบบพลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานหรืออาคาร
  • จัดซื้อไฟฟ้าสีเขียวผ่านสัญญาซื้อขายพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy PPA)
  • ซื้อใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificates: RECs)

การปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน

  • เลือกซัพพลายเออร์ที่มีนโยบายด้านความยั่งยืน และมีผลการดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกชัดเจน
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์
  • เปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบที่มีคาร์บอนฟุตพรินท์ต่ำ

การชดเชยคาร์บอน

  • ลงทุนในโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนอกองค์กร
  • ซื้อคาร์บอนเครดิต จากโครงการที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานของประเทศไทยหรือสากล
  • สนับสนุนโครงการปลูกป่าหรือฟื้นฟูระบบนิเวศ

คาร์บอนเครดิต คือ อะไร? คาร์บอนเครดิต คือ สิทธิที่ได้จากการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือการดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่สามารถวัดปริมาณได้ โดย 1 คาร์บอนเครดิต เท่ากับการลดการปล่อยหรือดูดซับก๊าซเรือนกระจก 1 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า องค์กรสามารถซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ไม่สามารถลดได้ในกระบวนการดำเนินงาน (Residual emission) นับเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการเดินทางสู่เป้าหมาย Net Zero

ข้อแนะนำ: จัดลำดับความสำคัญของมาตรการลดคาร์บอนโดยใช้การวิเคราะห์ต้นทุนต่อประสิทธิผล (Cost-effectiveness Analysis) เพื่อให้การลงทุนเกิดประโยชน์สูงสุด

 

ขั้นตอนที่ 4: สร้างแผนการดำเนินงาน

การสร้างแผนการดำเนินงานที่ครอบคลุมและเป็นรูปธรรมจะช่วยให้องค์กรสามารถเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดคาร์บอนได้อย่างเป็นระบบ แผนการดำเนินงานที่ดีควรประกอบด้วย

  • กิจกรรมหรือโครงการที่ชัดเจน – ระบุมาตรการลดคาร์บอนที่จะดำเนินการ
  • ผู้รับผิดชอบ – กำหนดทีมงานหรือบุคคลที่รับผิดชอบแต่ละกิจกรรม
  • ทรัพยากรที่ต้องใช้ – ระบุงบประมาณ บุคลากร และทรัพยากรอื่นๆ ที่จำเป็น
  • กรอบเวลา – กำหนดระยะเวลาดำเนินการและเส้นตายของแต่ละกิจกรรม
  • ตัวชี้วัดความสำเร็จ – กำหนด KPIs ที่ใช้วัดความสำเร็จของแต่ละกิจกรรม
  • การประเมินความเสี่ยง – ระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและแผนรับมือ

นอกจากนี้ การสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แผนการลดคาร์บอนประสบความสำเร็จ ดังนั้น ควรมีการสื่อสารและฝึกอบรมเพื่อให้ทุกคนเข้าใจและร่วมมือในการดำเนินการตามแผน

ข้อแนะนำ: บูรณาการแผนการลดคาร์บอนเข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจหลักขององค์กร เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

ขั้นตอนที่ 5: ติดตามความคืบหน้าและปรับแผน

การติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กรบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนฟุตพรินท์ องค์กรควรจัดให้มี

  • ระบบการติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจก – ติดตามการปล่อยคาร์บอนอย่างต่อเนื่องและเปรียบเทียบกับปีฐาน
  • การรายงานความคืบหน้า – จัดทำรายงานความคืบหน้าเป็นระยะเพื่อแสดงถึงความสำเร็จและความท้าทาย
  • การทบทวนและปรับแผน – ทบทวนแผนการดำเนินงานเป็นประจำและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
  • การเรียนรู้และพัฒนา – นำบทเรียนและประสบการณ์มาพัฒนาปรับปรุงแผนการลดคาร์บอนอย่างต่อเนื่อง

ข้อแนะนำ: พิจารณาใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น แพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินท์ เพื่อช่วยในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

บริการ Net Zero Advisory จากบ้านปู เน็กซ์ แบบครบวงจร

บ้านปู เน็กซ์ พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ระยะยาวในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ด้วยบริการให้คำปรึกษาและวางแผนกลุยทธ์เพื่อบรรลุ Net Zero โดยผู้เชี่ยวชาญ (Net Zero Advisory ) เพื่อช่วยให้ธุรกิจลดการปล่อย CO2 ครอบคลุมทั้งสามขอบเขตในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน

  • คำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก – กำหนดขอบเขต รวบรวมข้อมูล และคำนวณตามตามมาตรฐาน GHG Protocol , ISO 14064 และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) พร้อมประเมินเป้าหมาย Net Zero 
  • ออกแบบแผนงาน Net Zero – ช่วยองค์กรกำหนดเป้าหมายและวางแผนการลดคาร์บอนที่เหมาะสม
  • พัฒนาโซลูชันที่ลดการปล่อยคาร์บอนและขายคาร์บอนเครดิต – ดำเนินโครงการลดการปล่อยคาร์บอน ลดการใช้พลังงาน และโครงการคาร์บอนเครดิต รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของห่วงโซ่อุปทานและการปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อเพื่อให้เกิดความยั่งยืนการจัดทำรายงานความยั่งยืน 
  • ติดตามและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง – วัดผลการปล่อยคาร์บอนในทุกขอบเขตด้วยซอฟต์แวร์อัจฉริยะ
  • สื่อสารความยั่งยืนเพื่อยกระดับ ESG Rating – ให้คำแนะนำด้านการเปิดเผยข้อมูลเพื่อประเมินความยั่งยืนโดย FTSE Russell, Carbon Disclosure Project (CDP), MSCI Index, S&P หรือ ESG Rating อื่นๆ รวมถึงการจัดทำรายงานความยั่งยืน เพื่อสื่อสารความก้าวหน้าสู่ Net Zero กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

 

ก้าวสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน! ลดคาร์บอนกับบ้านปู เน็กซ์ วันนี้

ติดต่อบ้านปู เน็กซ์ เพื่อรับคำปรึกษาด้านการวิเคราะห์และวางแผนลดคาร์บอนฟุตพรินท์อย่างมืออาชีพ พร้อมโซลูชันพลังงานสะอาดครบวงจรที่จะช่วยให้องค์กรของคุณก้าวสู่ความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม

ติดต่อเรา – Banpu NEXT

 

อ้างอิง :

 

#บ้านปูเน็กซ์ #พิชิตNetZero #ลดคาร์บอนฟุตพรินท์ #BanpuNEXT #NetZeroSolutions #คาร์บอนเครดิต