จากผลสำรวจของ PwC (2564) พบว่า 80% ของผู้บริโภคไทย เลือกซื้อสินค้าจากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ SCB EIC (2567) ระบุว่า 70% ของผู้บริโภคยินดีจ่ายเพิ่มไม่เกิน 10% สำหรับสินค้าความยั่งยืน และการศึกษาของ State Street Global Advisors (2560) พบว่า 80% ของนักลงทุนสถาบัน กำลังหันไปสนับสนุนบริษัทที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดี แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนว่า เป้าหมาย Net Zero ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เป็น กลยุทธ์ธุรกิจสำคัญ ที่ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สร้างความภักดีของลูกค้า และดึงดูดเงินทุนในระยะยาว
จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ: กรณีศึกษาแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ
การมุ่งสู่ Net Zero ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แบรนด์ชั้นนำระดับโลกหลายแห่งได้เริ่มเดินทางนี้และกำลังเก็บเกี่ยวผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ ทั้งในแง่ของภาพลักษณ์ การเติบโตของธุรกิจ ESG และความได้เปรียบในการแข่งขัน
– Microsoft ตั้งเป้าลดคาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030
Microsoft มุ่งสู่ Carbon Negative ภายในปี 2030 และกำจัดคาร์บอนทั้งหมดที่ปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 1975 ภายในปี 2050 ด้วยการลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน พร้อมใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในศูนย์ข้อมูลและสำนักงานทั่วโลก ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มมูลค่าหุ้นของบริษัท
– Unilever: ผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค
Unilever ตั้งเป้า Net Zero ภายในปี 2039 ผ่านแผนลดก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่คุณค่า ลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ลดคาร์บอน ส่งผลให้ลดการปล่อยก๊าซจากการดำเนินงานลงกว่า 65% พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์ที่เน้นความยั่งยืนเร็วกว่ากลุ่มอื่นในพอร์ตโฟลิโอถึง 69%
สร้างแบรนด์ Net Zero ด้วยกลยุทธ์ที่ใช่
การสร้างแบรนด์ที่มุ่งสู่ Net Zero ไม่ใช่เพียงการประกาศเจตนารมณ์ แต่ต้องอาศัยกลยุทธ์ที่ครอบคลุมและการดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งเรามีกลยุทธ์หลักที่แบรนด์ควรพิจารณาอยู่ 3 แนวทางสำคัญคือ
1. ลดคาร์บอนจากการดำเนินงานจริง – เปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมหลักขององค์กรโดย:
- ใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือเข้าร่วมโครงการซื้อไฟฟ้าสะอาด
- ปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงาน ด้วยระบบปรับอากาศและแสงสว่างอัจฉริยะ
- เปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
2. สร้างความโปร่งใสด้าน ESG – วางแผนและเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
- วัดและเปิดเผยคาร์บอนฟุตพรินต์ทั้ง Scope 1, 2, 3
- กำหนด Net Zero Roadmap พร้อมเป้าหมายและแผนดำเนินงานที่ชัดเจน
- รายงานความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ ผ่านรายงานความยั่งยืน
3. สื่อสารแบรนด์ Net Zero ให้ตรงใจ – เชื่อมโยงกับลูกค้าและนักลงทุน ด้วยการสื่อสารที่ดีเพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมการมีส่วนร่วม
- เล่าเรื่องราวความมุ่งมั่นของแบรนด์ให้เข้าถึงง่าย
- แสดงผลลัพธ์ที่จับต้องได้ เช่น การลดคาร์บอนและผลกระทบเชิงบวก
- เปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วม เช่น โครงการลดคาร์บอนร่วมกับแบรนด์
บ้านปู เน็กซ์ พาร์ทเนอร์ด้าน Net Zero Solutions
บ้านปู เน็กซ์ เป็นผู้ให้บริการ Net Zero Solutions ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมเป็นพันธมิตรระยะยาวที่จะช่วยองค์กรของคุณบรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการให้คำปรึกษาและวางแผนกลุยทธ์โดยผู้เชี่ยวชาญ (Net Zero Advisory) ครอบคลุม 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1.การคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตาม หลัก GHG Protocol และ ISO 14064 2.การวางแผนและกำหนดเป้าหมาย Net Zero พร้อมกลยุทธ์ลดคาร์บอน 3. พัฒนาโซลูชันที่ลดการปล่อยคาร์บอนและขายคาร์บอนเครดิต 4. ติดตาม รายงานผล และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และ 5. สนับสนุนจัดทำการสื่อสารเพื่อประเมิน ESG Rating อาทิ CDP S&P FTSE Russell หรือ MSCI เป็นต้น
เริ่มต้นเส้นทางสู่แบรนด์ที่ยั่งยืนกับ บ้านปู เน็กซ์ วันนี้
ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อประเมินโอกาสในการพัฒนาแบรนด์ของคุณสู่ Net Zero
#บ้านปูเน็กซ์ #NetZero #ที่ปรึกษาNetZero #ESG #ความยั่งยืน #ธุรกิจESG #BanpuNEXT #NetZeroSolutions