การขนส่งสินค้าเป็นหนึ่งในต้นทุนหลักของธุรกิจ โดยเฉพาะเมื่อราคาน้ำมันพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ขณะเดียวกัน กระแสความยั่งยืนที่มาแรง ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและพันธมิตรทางธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ จึงเป็นทางออกสำคัญ ช่วยลดต้นทุนพลังงาน เข้าสู่ EV Ecosystem และสร้างความได้เปรียบในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทำไมธุรกิจขนส่งควรเปลี่ยนมาใช้ EV Fleet Solutions?
EV Fleet คือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นยานพาหนะหลักในการขนส่งสินค้า การเดินทางของพนักงาน หรือการให้บริการลูกค้า โซลูชันนี้ช่วยธุรกิจลดต้นทุนพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และก้าวสู่ความยั่งยืน นอกจากนั้น ยังเป็นการปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎหมายด้านพลังงานสะอาดและมาตรการลดการปล่อยคาร์บอน เช่น Carbon Tax โดยสหภาพยุโรปผ่านกลไก CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) และมาตรฐานการปล่อยมลพิษยานยนต์ EURO 7 ที่กำลังจะบังคับใช้ในหลายประเทศทั่วโลก
- ลดต้นทุนด้านพลังงาน – ค่าไฟสำหรับชาร์จ EV ถูกกว่าค่าน้ำมันอย่างชัดเจน การปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจึงช่วยควบคุมต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว
- ลดค่าใช้จ่ายด้านบำรุงรักษา – รถยนต์ไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน ลดความจำเป็นในการซ่อมบำรุง เช่น น้ำมันเครื่อง หัวเทียน และสายพาน ช่วยให้ธุรกิจลดต้นทุนในส่วนนี้ลงได้มาก
- ปรับตัวตามนโยบายภาครัฐ – การเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาดช่วยให้ธุรกิจปรับตัวรองรับกฎหมายและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเข้มงวดขึ้นในอนาคต พร้อมลดความเสี่ยงจากต้นทุนคาร์บอนที่อาจเพิ่มสูงขึ้น
- เพิ่มโอกาสในการรับเงินสนับสนุน – ภาครัฐและสถาบันการเงินให้การสนับสนุนทางการเงิน เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการเข้าถึง Green Finance และ Green Bond เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
- ปรับตัวสู่แนวโน้มตลาดในอนาคต – ความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจเริ่มให้ความสำคัญกับองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ธุรกิจที่ใช้ EV Fleet Solutions จึงมีโอกาสได้เปรียบในการแข่งขัน
- บรรลุเป้าหมาย Net Zero – การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยคาร์บอนหลักขององค์กร ทั้งใน Scope 1 และ Scope 3 เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ได้เร็วขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
EV Fleet เหมาะกับธุรกิจแบบไหน?
- ธุรกิจโลจิสติกส์และขนส่งสินค้า: สามารถประหยัดต้นทุนการขนส่งได้มากขึ้น ด้วยเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV Charging Station ที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ช่วยให้การขนส่งสินค้าระยะไกลสะดวกและมีประสิทธิภาพ
- ธุรกิจขนส่งสาธารณะและรถแท็กซี่: ช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงในระยะยาว และเพิ่มกำไรต่อเที่ยว
- ธุรกิจเดลิเวอรีและบริการส่งของ: ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ทำให้สามารถเสนอราคาบริการที่แข่งขันได้ พร้อมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
- ธุรกิจที่ต้องการปรับตัวเข้าสู่โมเดล ESG: เช่น องค์กรที่ต้องการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
บริการ E-Mobility จากบ้านปู เน็กซ์ โซลูชัน EV ที่ครบวงจรสำหรับธุรกิจ
บ้านปู เน็กซ์ ให้บริการระบบสัญจรทางเลือกแบบครบวงจร (Mobility-as-a-Service / MaaS) เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ครอบคลุมตั้งแต่บริการบริการสินเชื่อลีสซิ่ง บริการให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้า และเครือข่ายสถานีชาร์จทั่วประเทศ ไปจนถึงระบบจัดการฟลีทอัจฉริยะ (EV Fleet Management) พร้อมดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการฟลีทยานพาหนะไฟฟ้า ติดตามการดำเนินงาน และการตรวจสอบคาร์บอนฟุตพรินต์
การเปลี่ยนมาใช้ EV Fleet Solutions เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยต้นทุนพลังงานที่ถูกลง การบำรุงรักษาที่ง่ายขึ้น และการสนับสนุนจากภาครัฐและพันธมิตรทางธุรกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้ธุรกิจพร้อมรับมือกับกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเข้มงวดขึ้นในอนาคต ฟลีทรถยนต์ไฟฟ้าจึงไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ แต่เป็นแนวทางที่ยั่งยืนและจำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจในยุคต่อไป
เปลี่ยนสู่อนาคตการขนส่งที่ยั่งยืน ด้วย EV Fleet Solutions
#บ้านปู เน็กซ์ #พิชิตNetZero #EVเพื่อธุรกิจ #BanpuNEXT #NetZeroSolutions
