บ้านปู เน็กซ์ กับบทบาทด้านสิ่งแวดล้อมตามหลัก ESG

บ้านปู เน็กซ์ ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตระหนักดีว่าความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมมีความสำคัญอย่างยิ่ง เราจึงวางกลยุทธ์ระยะยาวขององค์กรให้สอดคล้องกับหลักการดำเนินงานที่มุ่งให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ขององค์การสหประชาชาติ โดยนำมาปรับใช้ในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจขององค์กร ตามแนวทางของบริษัทแม่อย่าง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)

การดำเนินงานตามหลัก ESG ตลอดจนผลงานและการริเริ่มโครงการต่าง ๆ ของเราเพื่อร่วมสร้างความยั่งยืนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความคืบหน้าในการสนับสนุนการพัฒนาสมาร์ทซิตี้และภารกิจขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอน (Net-Zero)

ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญของการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ซึ่ง บ้านปู เน็กซ์ นำมาผสานเข้ากับกลยุทธ์องค์กร โดยมุ่งมั่นสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้นและลดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถติดตามตรวจสอบและวัดประเมินผลได้ ทั้งในด้านผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การปล่อยคาร์บอน มลพิษทางอากาศและน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ การตัดไม้ทำลายป่า ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน การบริหารจัดการขยะ การขาดแคลนน้ำ ฯลฯ โดยขอนำเสนอตัวอย่าง 3 ด้านที่สะท้อนให้เห็นถึงความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม

  1. ลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และลดการปล่อยคาร์บอน CO2

โซลูชันพลังงานฉลาดเพื่อความยั่งยืนแบบครบวงจรของ บ้านปู เน็กซ์ ช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไปแล้วประมาณ 425,420 ตัน* ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ผิดปกติและการเกิดภัยพิบัติต่างๆ นอกจากนี้ เรายังส่งเสริมและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) และการลดการปล่อยคาร์บอน CO2 ในกลุ่มผู้ประกอบการและชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) การมีส่วนร่วมอย่างจริงจังเพื่อสร้างผลดีต่อสิ่งแวดล้อม สามารถเห็นได้จากบทบาทของเราในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาดที่ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุนและลดการปล่อยคาร์บอน CO2 ในการดำเนินธุรกิจลงได้อย่างมหาศาล อาทิ การใช้ระบบการบริหารจัดการยานพาหนะไฟฟ้า (Fleet Management) เพื่อรองรับงานด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง

  1. ลดปัญหาการขาดแคลนน้ำและลดมลพิษทางน้ำ

นับจากวันที่เริ่มต้นดำเนินธุรกิจพลังงานสะอาดของบ้านปู เน็กซ์ได้ช่วยประหยัดน้ำไปแล้วถึง 820 ล้านลิตร* พร้อมทั้งช่วยลดต้นทุนค่าพลังงานจากการที่ไม่ต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตไฟฟ้า โดยข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติชี้ว่า ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลให้การคาดการณ์ผลกระทบทั้งในด้านของปริมาณและคุณภาพน้ำเป็นไปได้ยากมากขึ้น การปรับเปลี่ยนสู่พลังงานสะอาด เช่น การใช้ระบบโซลาร์ ช่วยให้พันธมิตรและลูกค้าของบ้านปู เน็กซ์ ลดการก่อของเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าได้ ซึ่งเป็นการช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมไม่ให้สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพจากมลพิษทางน้ำและภาวะโลกร้อน

  1. ลดมลพิษทางอากาศ

จากการร่วมมือกับองค์กรชั้นนำต่าง ๆ บ้านปู เน็กซ์ ช่วยลดการปล่อย CO2 ได้เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ประมาณ 25 ล้านต้น* ซึ่งเป็นการร่วมกันส่งเสริมคุณภาพอากาศที่ดี เพื่อให้ผู้คนในสังคมได้สูดอากาศที่สะอาดบริสุทธ์ยิ่งขึ้นพร้อมกับลดมลพิษทางอากาศลงได้อย่างมากการดำเนินการเหล่านี้ ช่วยตอกย้ำว่าโซลูชันพลังงานฉลาดเพื่อความยั่งยืนแบบครบวงจรของบ้านปู เน็กซ์สามารถกระตุ้นให้ผู้คนและชุมชนโดยรอบ หันมาใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น ฝุ่น PM2.5 และก๊าซเรือนกระจก ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชีวิตประจำวันของพวกเขาในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาด บ้านปู เน็กซ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการลงมือแก้ปัญหาความเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยมุ่งมั่นดำเนินงานตามแนวคิด ESG ตลอดจนหลักการในด้านสังคมและบรรษัทภิบาล โดยหลักการเหล่านี้คือสิ่งที่เรายึดมั่น และจะเป็นแนวทางในการดำเนินงาน การจัดกิจกรรมต่างๆ และการกำหนดพันธสัญญาของเราในการร่วมสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คนและธุรกิจการผนึกความร่วมมือพันธมิตร และลูกค้ารายใหม่ ๆ จะช่วยให้บ้านปู เน็กซ์สามารถขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกให้เกิดเป็นวงกว้างยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้เรายกระดับระบบนิเวศทางธุรกิจให้มีโซลูชันพลังงานฉลาดให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ตอบหลัก ESG ได้ทุกมิติ พร้อมกับมุ่งสู่วิสัยทัศน์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะและสังคมไร้คาร์บอน

ด้วยแนวทางดังกล่าว เราจะเดินหน้าสร้างคุณค่ารอบด้านให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม สังคม พนักงาน และผู้ถือหุ้น ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถช่วยให้เราปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และสร้างมูลค่าให้แก่ธุรกิจของเราในระยะยาว

*นับจากวันเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2565

อ้างอิง:

1. https://www.cfainstitute.org/en/research/esg-investing

2. https://www.unwater.org/water-facts/water-scarcity