ในวันที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาสภาพภูมิอากาศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งปัญหานี้ได้รับความสนใจมากขึ้นจากองค์กรทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปีพ.ศ. 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในพ.ศ. 2608
เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว หนึ่งในมาตรการที่มีบทบาทสำคัญ คือการวัดและรายงานปริมาณคาร์บอนที่องค์กรปล่อยออกมา ผ่านกระบวนการจัดทำ CFO (Carbon Footprint for Organization) ซึ่งถือเป็นวิธีสำคัญสำหรับการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรในปัจจุบัน
เครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ยกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืน
การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization : CFO) เป็นวิธีการหนึ่งในการคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการดำเนินงานขององค์กร ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นการผลิต การขนส่ง การให้พลังงานภายในองค์กร หรือกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งการจัดทำ CFO จะช่วยให้องค์กรสามารถระบุพื้นที่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดและกำหนดแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ องค์กรที่ดำเนินการจัดทำ CFO อย่างต่อเนื่องจึงสามารถขอรับเครื่องหมายรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้
ดังนั้นเครื่องหมายรับรองนี้ จึงเป็นเครื่องยืนยันที่สะท้อนถึงความโปร่งใส และความรับผิดชอบในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม และยังเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค นักลงทุน และพาร์ทเนอร์ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน
ประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับ เมื่อผ่านการรับรอง CFO
- พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นธุรกิจที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผ่านการวิเคราะห์และวางแผนอย่างเป็นระบบ และมีการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- มีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพราะการได้รับเครื่องหมายรับรอง CFO แสดงให้เห็นว่าธุรกิจสามารถปรับตัวเข้ากับตลาดที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นำไปสู่โอกาสในการดึงดูดลูกค้าและนักลงทุนที่สนับสนุนธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- พร้อมรับมือกับข้อกำหนดจากภาครัฐ โดยองค์กรที่ผ่านการรับรอง CFO จะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายในอนาคตได้อย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น พร้อมเข้าสู่ตลาดคาร์บอนภาคบังคับหรือภาคสมัครใจ สร้างโอกาสในการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ตลอดจนถึงการรับมือกับภาษีคาร์บอนที่กำลังจะถูกบังคับใช้ในเร็วๆ นี้
บ้านปู เน็กซ์ พาร์ทเนอร์พลังงานสะอาด 100%
บ้านปู เน็กซ์ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมผลักดันการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคธุรกิจ ด้วยโซลูชันพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งเราสามารถช่วยธุรกิจลดคาร์บอนได้มากถึง 463,231 ตัน (ข้อมูล ณ ไตรมาส 3/2567) อีกทั้งยังได้รับการรับรองปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับองค์กร (CFO) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)
และในปี 2566 โดยบ้านปู เน็กซ์ และบริษัทลูกในประเทศไทย ดำเนินธุรกิจโดยใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ซึ่งได้รับการชดเชยผ่านมาตรฐาน International REC Standard (I-REC) ตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมไร้คาร์บอนในอนาคต
เดินหน้าธุรกิจไปพร้อมกับผู้นำด้านความยั่งยืน
ในฐานะผู้ให้บริการ Net Zero Solutions ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บ้านปู เน็กซ์ มุ่งมั่นสนับสนุนธุรกิจในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน ด้วยความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งได้รับการยืนยันจากใบรับรอง CFO ที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับคู่ค้าและลูกค้า
บริการ Net Zero Solutions ของบ้านปู เน็กซ์ช่วยให้องค์กรสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างครอบคลุม ทั้งในขอบเขตที่ 1 2 และ 3 โดยเฉพาะในขอบเขตที่ 3 ซึ่งเป็นขอบเขตที่เกี่ยวข้องกับซัพพลายเชน ด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์ด้านพลังงานสะอาดในระยะยาว นอกจากนี้บริการของเราจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero ไปพร้อมกับเราอย่างมั่นคงและยั่งยืน
อ้างอิง
- https://www.nxpo.or.th/th/9651/
- https://www.ttbbank.com/th/fin-biz/general-business/business-management/7stepcfo24
- https://www.compareyourfootprint.com/5-benefits-of-carbon-footprinting-your-organisation/
- http://localcfo.tgo.or.th/uploads/docs/1_หลักเกณฑ์และเงื่อนไข_CFO.pdf
- https://www.forbes.com/sites/katevitasek/2024/02/15/sustainability-partnerships-what-they-are-why-they-matter-and-how-they-work/
- https://www.imprintplus.com/blog/post/seven-benefits-of-partnering-with-eco-friendly-businesses?srsltid=AfmBOooeqFTFoz27-wocSf7eE3DXyXmL_Hh3UwKRDDA1Ei2cxMsTja9x